โรคอ้วนลงพุง
วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ ซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง ว่าคืออะไร แล้วใครกันบ้างที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ และอะไรที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค และผลร้ายที่จะตามมา และการป้องกันและรักษา ตลอดจนอาหารการกินอย่างไรให้เอาชนะโรคอ้วนลงพุง ไปดูกันเลย
1. ทำความรู้จักกับโรคอ้วนลงพุง
ซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง คืออะไร ไปดูกัน ปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น และอาหารก็เป็นที่ล่อใจซะเหลือเกิน ทำให้การกินเป็นเรื่องที่สนุกและเพลิดเพลิน และยิ่งต้องมาเจอการทำงานที่ต้องนั่งอยู่ที่เดิมเป็นประจำนาน ๆ หลายชั่วโมง ทำให้ขยับร่างกายน้อยมาก และออกกำลังน้อย ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลให้เกิดความอ้วน และโรคอ้วนลงพุง หรือซินโดรมนั้นก็คือ ภาวะที่มีการสะสมของไขมันในช่องท้องที่มากเกินไป ยิ่งรอบพุงใหญ่มากเท่าไร ไขมันยิ่งสะสมในช่องท้องมากขึ้นเท่านั้น จนทำให้เกิดเมตาบอลิกซินโดรม ซึ่งคือภาวะที่การเผาผลาญอาหารในร่างกายที่ผิดปกติ ส่งผลให้เกิดปัญหาความดันโลหิตสูง ไขมันสูง เบาหวาน และนำไปสู่โรคต่าง ๆ ซึ่งมักจะเกิดกับผู้ที่มีไขมัน
สะสมในช่องท้องมากเกินไปหรือที่เรียกกันว่า อ้วนลงพุง นั่นเอง และคนที่มีลักษณะท้วมนั้นมักจะมีโอกาสที่จะเป็นโรคอ้วนลงพุงถึง 25 %กันเลยทีเดียว
2. ใครที่มีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนลงพุง
หลังจากที่เราได้รู้จักกับ ซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง ว่าคืออะไรกันแล้ว ก่อนที่จะไปดูว่าจะกินอย่างไรให้เอาชนะโรคอ้วนลงพุงนั้น เราก็จะพาทุกคนไปดูว่าใครกันบ้างที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนลงพุง ซึ่งก็จะมีเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรค โดยการวัดเส้นรอบพุงสำหรับผู้ชายที่มีรอบเอว 90 ซม. และผู้หญิง 80 ซม.ขึ้นไป และเข้าเกณฑ์ 2 ข้อจาก 4 ข้อนี้ 1.มีความดันโลหิตที่มากกว่า 130/85 มิลลิเมตรปรอท 2. มีระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงกว่า 150 mg./เดซิลิตร 3. มีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่า 100 mg./เดซิลิตร และข้อ 4. มีระดับคลอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือด หรือ HDL-Cholesterol น้อยกว่า 40 mg./เดซิลิตร สำหรับผู้ชาย และน้อยกว่า 50 mg./เดซิลิตร สำหรับผู้หญิง เอาง่าย ๆ เลยก็คือ หากเช็คดูแล้วมีเส้นรอบพุงที่เกิน 90 และ 80 ซม.ขึ้นไป ก็ควรจะตรวจเช็คสุขภาพอีก 4 ด้าน หากไม่เข้าเงื่อนไขใดก็สบายใจได้เพราะเรายังมีสุขภาพที่ดีอยู่ แต่หากใครเกินก็ต้องเร่งลดความอ้วนกันหน่อยละงานนี้
3. วิธีการวัดโรคอ้วนลงพุง
ทีนี้เราก็จะมาดูว่า วิธีการวัดเส้นรอบพุงของซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง นั้นเขาวัดกันอย่างไร โดยวิธีวัดรอบพุงนั้น เราจะนำสายวัดมาวัดรอบพุงโดยจะวัดขณะที่เรายืนตัวตรงในขณะที่กำลังหายใจออก และแนะนำให้วัดรอบพุงในช่วงเวลาเช้า ที่ยังไม่ได้รับประทานอาหารใด ๆ และหากมีคนวัดให้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าเราวัดด้วยตัวเองก็อาจจะมีความคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งหากวัดรอบพุงสำหรับผู้ชายแล้วมีเส้นรอบพุงมากกว่า 90 ซม. ขึ้นไป และหากเป็นผู้หญิงก็จะมากกว่า 80 ซม.ขึ้นไป แต่หากเป็นคนยุโรป หรือคนอเมริกาค่าที่ให้ก็จะมากกว่านี้ ลองไปวัดกันดูนะ เพราะถ้าเราวัดดูแล้วไม่ถึงตามค่าที่เกณฑ์กำหนดก็จะทำให้เราได้สบายใจในระดับหนึ่ง ส่วนใครที่วัดแล้วเกินเห็นทีจะต้องลดความความเพื่อดูแลสุขภาพกันให้มากขึ้น จะได้มีสุขภาพดี โรคภัยไข้เจ็บจะได้ไม่ถามหา
4. ปัจจัยเสี่ยงในการอ้วนลงพุง
ตัวการแห่งการอ้วนและเกิดโรคซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง นั้นมีหลายปัจจัยด้วยกัน ไปดูว่าเหตุผลหรือปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดโรคอ้วนนี้มาจากอะไรกันบ้าง โดยปัจจัยหลัก ๆ อันดับแรกเลยก็คือ กรรมพันธุ์ ซึ่งภาวะนี้แต่ละเชื้อชาติก็มีระดับความอ้วนลงพุงมีค่าวัดเส้นรอบพุงที่ไม่เท่ากันแต่กรรมพันธุ์ก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้หลายคนเป็นคนอ้วนลงพุงและปัจจัยที่มีต่อความอ้วนมากที่สุดรองลงมาจากกรรมพันธุ์นั้นก็คือ พฤติกรรมการกินของแต่ละคนนั่นเอง เพราะส่วนใหญ่มักจะชอบกินอาหารที่มีพลังงานสูง และอาหารที่ไม่ค่อยมีโภชนาการ และที่สำคัญคือไม่ออกกำลังกาย หรือออกำลังกายน้อยกว่าการกินนั่นเอง และอีกหนึ่งสาเหตุนั้นก็คือ อายุ เมื่อมีอายุมากก็มีโอกาสเสี่ยงมากกว่า และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีส่วนให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดโรค ฉะนั้น หากใครที่รักสุขภาพ ก็ควรจะดูแลตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแร็ง เพื่อให้มีสุขภาพดีไม่เป็นคนลงพุงง่าย ๆ
5. ผลร้ายที่เกิดจากการอ้วนลงพุง
หากร่างกายของเราไม่แข็งแรง ก็มักจะเสี่ยงที่จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มาเยือน และก็เช่นเดียวกันกับโรคซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง หากเมื่อเป็นแล้วก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เรามีโรคต่าง ๆ ตามมาอีกหลายโรคด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันเกาะตับ โรคมะเร็ง โรคอัมพฤกษ์และโรคอัมพาต โรคไขมันอุดตัน โรคนิ่วในถุงน้ำดี และโรคเก๊าท์ โรคข้อเสื่อม เส้นเลือดขอด และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน เพราะรอบเอวจะเพิ่มขึ้นในทุก ๆ 5 เซนติเมตร เรียกได้ว่าทุกโรคถามหาจริง ๆ หากไม่อยากมีน้องโรคที่ตามมาเยอะแยะมากมายก็ต้องหันมาใส่ใจสุขภาพกันให้มากขึ้น จะได้มีสุขภาพดีกันถ้วนหน้า
6. การป้องกันและรักษา
ในการป้องกันและรักษาซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง นั้น เบื้องต้นเราควรจะป้องกันโรคด้วยวิธีธรรมชาตินั้นก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการกิน กินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการสำหรับคนที่เป็นโรคอ้วนลงพุง และควรมีเวลาในการออกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที
ในทุก ๆ วัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถจะช่วยควบคุมไม่ให้น้ำหนักขึ้นสูงมากไปกว่าเดิม รับประทานอาหารที่มีแป้งให้น้อยลง หาก
ใช้วิธีตามธรรมชาติไม่ได้อาจต้องใช้ยาในการลดน้ำหนัก หรือรักษาด้วยการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดขนาดให้เล็กลงตรงนี้อาจใช้กรณีที่
เป็นคนอ้วนลงพุงขั้นรุนแรงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตประจำวัน
7. อาหารสำหรับคนอ้วนลงพุง
สำหรับใครที่กำลังเผชิญอยู่กับโรคซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง การกินอย่างไรให้เอาชนะโรคอ้วนลงพุง เราไปดูว่า อาหารที่ควรจะกินสำหรับคนอ้วนลงพุงควบคู่ไปกับการออกกำลังกายนั้นมีอะไรบ้าง อาหารประเภทข้าวเลือกเป็นข้าวที่ไม่ขัดสี ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต และเป็นธัญพืชและลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หากเป็นเนื้อสัตว์ควรเป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลา ไข่ขาว เนื้อหมูสันใน เนื้ออกไก่ และควรเลี่ยงอาหารเนื้อสัตว์ที่แปรรูปต่าง ๆ กรณีเป็นนม ควรดื่มนมพร่องมันเนย หากเป็นนมเปรี้ยวก็ให้มีรสหวานน้อย และรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงและผักประเภทใบ และเลี่ยงผักชนิดที่เป็นหัว เพราะจะมีแป้งสูงและหากเป็นผลไม้ให้เลือกรับประทานผลไม้ที่ออกรสหวานน้อย และที่สำคัญควารดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น อย่างน้อยวันละ 2 ลิตรขึ้นไป หากเราทำได้ในแต่ละวันควบคู่กับการออกกำลังกาย และเคร่งครัดกับตัวเองก็จะทำให้เรามีสุขภาพดี ไม่อ้วน
เป็นอย่างไรกันบ้าง อย่างน้อยวันนี้ใครที่เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงจะทำให้รู้จักโรคซินโดรม หรือโรคอ้วนลงพุง ว่าคืออะไร และอะไรที่ทำให้เกิดโรคนี้ และผลร้ายที่จะตามมานั้นมากมายเหลือเกิน และเราจะเลือกกินอย่างไรให้เอาชนะโรคอ้วนลงพุง ตลอดจนการเอาใจใส่ในเรื่องของการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมการกินของเรา เพื่อให้เราได้มีร่างกายที่แข็งแรง และห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ และหวังว่าทุกคนจะมีสุขภาพดีกันถ้วนหน้าห่างไกลจากโรคอ้วนลงพุงกันทุกคน
เครดิตรูป
อ่านต่อที่ ธัญพืช
